KUMBHMELA NASIK 2015 : ตอนที่ 1 DHOBI GHAT ลานซักผ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก, [CR] LOWEPRO Protactic 450aw
- ฺBIER PHOTO
- Oct 6, 2015
- 2 min read
ช่วงวันที่ 22 ส.ค. - 1 ก.ย. ที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสไปร่วมงานแสวงบุญ กุมภเมลา ที่เมือง นาสิก ประเทศอินเดีย มาครับ 10 วันที่เต็มไปด้วย หลากอารมณ์ ได้พบเจอผู้คนแปลกใหม่ วัฒนธรรมที่แตกต่าง ความเชื่อแปลกๆที่เราสามารถจะพบได้แต่ที่นี่เท่านั้นครับ ผมแบ่งเรื่องราวออกเป็น 3 ตอนจะค่อยๆเล่าไปนะครับ
เปิดตัวด้วย Time Lapse จาก Mumbai และ Nasik เสียหน่อย สั้นเกิ๊น
พูดถึงประเทศอินเดียเปรียบได้กับ สวรรค์ของนักถ่ายภาพแนว Street photography เลยทีเดียว ด้วยจำนวนผู้คนที่มหาศาล และเป็นมิตรกับช่างภาพ ได้อารมณฺภาพเข้ากันได้ดีสถาปัตยกรรมเก่าแก่ ที่มีอิทธิพลจากประเทศอังกฤษสมัยอาณานิคม

ทริปนี้เราลงเครื่องกันที่มุมไบ เนื่องจากมุมไบเองก็มีสถานที่น่าสนใจหลายๆที่ เราจึงให้เวลากับ
มุมไบประมาณ 2 วันที่จะได้ตะลอนเก็บภาพ ก่อนที่จะไปที่งานกุมภเมลา เพื่อให้ทันกับ วันพิธีลงอาบน้ำใหญ่ครั้งแรก ( Shravan Sudha pornima - 1st Shahi snan ) ในวันที่ 29 ส.ค.พอดี ไปถึงค่ำวันที่ 21 ครับ กะว่าเช้า 22 จะออกถ่ายภาพกันแต่เช้า ปรากฎว่าเหนื่อยครับ ตื่นกันสายเลย
ออกจากโรงแรม เดินหาข้าวทานแล้วเก็บภาพบรรยากาศตลาดรอบๆโรงแรมนิดหน่อยครับ
อย่างที่บอกคนอินเดีย ชอบการ (ถูก) ถ่ายภาพมากกกกก

โดนเรียกไปถ่ายรูปให้เฉยเลย

เหมือนจะเป็นหน้ากล้วย ผมฝากท้องกับกล้วย หลายมื้อมากทริปนี้

ผู้ชายขายขนม

ท่ายืน...



มุมไบนี่ผู้ชายทำงานเยอะจริงๆครับ ผู้หญิงจะเป็นแม่บ้าน


ตัดผมโกนหนวด กันกลางถนนเลย





สถานที่แรกในมุมไบที่ไม่ควรพลาดเด็ดขาด คือ Dhobi Ghat (โดบิกาต) ลานซักผ้าที่ใหญ่ที่สุดในโลกครับ (ไม่ใช่ที่สิงคโปร์นะครับ ฮ่าฮ่า ) พร้อมแล้วก็ลงไปลุยกันเลยครับ

Dhobi Ghat (โดบิกาต) เป็นลานซักผ้ากลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่ถูกบันทึกโดย World Records India and World Amazing Records ในปี ค.ศ. 2013 (ข้อมูลจาก wikipedia.com)
อยู่ในความดูแลของบริษัท Dhobi Kalyan & Audhyogik Vikas Co – op. Society Ltd. ประกอบไปด้วยคนงานกว่า 5000 คนและ 200 ครอบครัวที่อยู่ในพื้นที่นี้ ผ้าที่มาซักก็มาจากรอบเมือง มุมไบ ทั้งจากธุรกิจโรงแรม และ โรงพยาบาลครับ อ่านเจอมาว่าวันละกว่า 100,000 ชิ้นเลยครับ (ดูเขาก็ซักได้ขาวดี ทำไมโรงแรมที่นอนผ้ามันเหลืองจังวุ้ย)

Dhobi Ghat อยู่ใกล้สถานีรถไฟ Mahalaxmi สามารถมองลงมาจากสะพานได้เลยครับ จริงๆจะว่าไปก็เป็นพื้นที่เอกชนนะครับ ไม่สามารถเข้าไปถ่ายภาพได้ แต่เราสามารถหา guide เถื่อนได้รอบๆ Dhobi Ghat ครับ ราคาก็แล้วแต่ต่อรองน่ะครับ วันแรกผมไปถึงตอนบ่าย ก็เจอประกบเลยครับ จะเอาคนละ 500 รูปี แต่โชคดีน้าไก่ Papercut ติดต่อได้ที่ 4 คน 700 รูปีในวันรุ่งขึ้น เลยประหยัดไปเยอะ แต่ถ้าบางคนมีจังหวะก็สามารถแอบมุดเข้าไปชมไม่เสียค่าใช้จ่ายครับ อาศัย Survival Skill แบบเกมแนว Metal Gear Solid รึ Splinter Cell เสียหน่อย...


การมาเยี่ยมชม Dhobi Ghat ควรมาเช้าๆครับ 7-8 am. เพราะที่นี่ซักและตากผ้าเร็วครับ หลายๆคนเหมือนจะรับงานหลายอย่าง ซักเสร็จก็จะอาบน้ำแต่งตัวแล้วออกไปเลยครับ ถ้าอยากได้ภาพการซักผ้า ทุบผ้า เหยียบผ้า... ควรไปเร็วๆครับ วันแรกผมเดินไปถึงราวๆ บ่ายโมง ตลาดวายแล้วครับ เลยต้องตื่นไปเช้าอีกวันแทน....

แหล่งรวมเหล่าพ่อบ้านใจกล้า


Station ซักผ้าของแต่ละคนครับ


ประกอบอาหาร ใช้ชีวิตกันในนี้เสร็จสรรพ


มีปลามาขายถึงที่






ซักผ้าเสร็จก็อาบน้ำแต่งตัวไปทำงานที่อื่นต่อครับ







สีขาวนี่ใส่ครามแล้วก็ย่ำๆ T_T
พูดถึงการเรียก Taxi เสียหน่อย...น้ามะยมที่ไปด้วยกันแกสอนมาครับ ให้เรียกรถที่วิ่งอยู่ บอกสถานที่จะไปแล้วโดดขึ้นรถเลย ค่อยบอกให้เปิด meter ครับ จะไม่ค่อยอิดออด แต่ถ้าจำเป็นต้องเรียกรถที่จอด ถ้าไม่ยอมเปิด meter ก็ต้องคุยราคาให้เรียบร้อยครับ ถ้าเรามีกระเป๋าเดินทางส่วนใหญ่ก็ต้องเหมานะครับ คุยราคาให้ดีก่อนขึ้น (เพราะอาจจะตุกติกกันได้ครับ) หรือเดินไปเรียก prepaid booth ตามสถานีรถไฟครับ ราคาแพงกว่าปกติไม่กี่สิบบาทครับ ไม่ปวดหัวดี คณะผมเจอกรณีตอนขากลับครับ คนขับมาหาเหยื่อในสถานีรถไฟเลยครับ เอากระเป๋าขึ้นรถเสร็จไม่ยอมกด meter แล้วจะขอเหมาราคาท่าเดียว ทั้งๆที่ คุยว่าจะเปิดมิเตอร์ตอนแรกครับ พอเจรจากันไม่ได้ความ แกล้อครถเลย ไม่ให้เอาของลง แต่น้ามะยมแกเก๋ามาก เดินไปเรียกตำรวจมาเลยครับ...
บทย่อย GEAR
มาพูดถึงอุปกรณ์ที่เตรียมไปใน Trip นี้ซะหน่อย ไปคราวนี้กลัวไม่ได้ภาพครับ ขนอุปกรณ์เต็มมากๆ
1. กล้อง Sony A7 1 ตัว, A7R 1 ตัว
2. เลนส์ 16-35 ,24-70, 28f2 ,wide-con ,55 1.8, 70-200
3. flash FVL20m, Nissin i40
4. ขาตั้ง Manfrotto 190
คือไม่ได้ใช้ตั้งหลายอย่าง แต่กลัวถึงเวลาจะใช้แล้วไม่มีให้ใช้ T_T
ปรากฎว่า กระเป๋า Nat Geo กับ Kata ที่มีอยู่ใส่ไม่พอครับ เลยต้องหากระเป๋าใหม่ครับ search ไปจนเจอใบนี้ครับ Lowepro Protactic 450aw ไปได้มาจาก Capa ที่ Fortune ถูกที่สุดที่หาได้ครับ 5950 บาท (มั้ง) ที่อื่นเช็คราคา 6000+ หมดเลย

สามารถใส่กล้อง 2 ตัวกันเลนส์ที่ว่ามา แถมมีที่เหลืออีกเล็กน้อย 2 ช่องครับ

ยัดห่าได้สบายๆ
เป็นกระเป๋าแบบกึ่ง sling สามารถเอากล้องออกจากช่องด้านบน (ที่มีเป็นฝาแข็งกันกระแทก ) และช่องด้านข้างครับ

มีช่องสำหรับใส่ macbook (แต่ผมไม่มี...) โน้ตบุคหนาๆ น่าจะลำบากหน่อยครับ

ความสุดยอดของมัน นอกจากเก็บอุปกรณ์ที่ท่านมีได้อย่างบ้าคลั่ง แล้วก็คือ ไอ้ช่องที่สามารถเหน็บ pouch รอบตัวมันนี่ล่ะครับ ผมลองใส่ของ fotofile แล้วใส่ได้นะครับ ยกเว้น pouch ยาวๆที่ไว้ใส่ 70-200 จะสอดลงไปไม่ได้ อาจต้องใช้ของ Lowepro เองครับ ในชุดมีกระเป๋าเหน็บเล็กๆมาให้ 1 ใบและที่เก็บข้าตั้งกล้อง 1 ชุดครับ

ที่เหน็บ pouch
ผมเรียกมันว่า ระบบ "เห็บหมา" 555
เหมาะกับการเอา pouch เกาะๆ กันไป ค่อยมาแยกเป็นระบบคาดเอวทีหลังครับ

นายแบบจำเป็น ขอบคุณภาพจาก น้าไก่ papercut
ใครสนใจเข้าไปดูรายละเอียดต่อได้ที่ website
ขอจบตอนแรกเท่านี้ก่อน ตอนที่สอง จะพาไปเดินดูสถาปัตยกรรมในเมืองมุมไบ และเล่าบรรยากาศในงานกุมภเมลาครับ
Comments