KUMBHMELA NASHIK 2015 : ตอนที่ 2 เดินเล่น Mumbai แล้ววาร์ปไป Nashik
- BIER PHOTO
- Mar 1, 2016
- 2 min read
มาถึงตอนที่ 2 แล้วครับ ผมจะพาไปเดินเล่นในเมืองมุมไบครับ
เมืองมุมไบ (Mumbai) รึ ชื่อเดิม บอมเบย์ (Bombay) ปล.คนอินเดียชอบเรียกบอมเบย์มากกว่า
เป็นเมืองหลวง ของรัฐ มหารัชตะ (Maharasta) เป้นเมืองที่ใหญ่ที่สุด และมี GDP สูงที่สุดในอินเดียครับ ประชากรหนาแน่นสุดๆ ราวๆ 18 ล้านคน หลังจากการเข้ามายึดครองของอังกฤษ เนื่องจากเป้นเมืองท่าสำคัญ อังกฤษได้พัฒนาระบบสาธารณูปโภคสำคัญๆไว้หลายอย่างมากครับ เช่น ระบบการปกครอง วัฒนธรรม และที่สำคัญคือ ระบบการขนส่งมวลชน อย่าหาว่าอวยเลยนะครับ ผมว่ารถไฟของอินเดียนี่น้องๆยุโรปเลยครับ(เอาเฉพาะระบบนะครับ คุณภาพรถนี่คงไม่ไหว)
รถไฟที่นี่รางกว้าง วิ่งได้เรียบเร็ว ค่อนข้างตรงเวลา ที่สำคัญ รถไฟของเขาใช้ในชีวิตประจำวันได้ครับ แม้กระทั่งรถเมล์เก่าๆ ของเขาใช้เครื่องออกตั๋วพกพาบนรถนะครับ ไม่ได้ใช้กระบอกแก๊บๆๆ แบบบ้านเรา
พูดถึงรถไฟ สถานีที่ไม่ควรพลาดในการมาเยี่ยมชมด้วยประการทั้งปวงคือ ที่นี่ครับ
สถานีฉัตรปติศิวาชี Chhatrapati Shivaji Terminus
สถานีถูกสร้างตั้งแต่ปี 1887 เพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง Golden Jubilee (กาญจนาพิเศก ใช่มั้ยครับ) ของสมเด็จพระนางเจ้าวิคตอเรีย สมัยก่อนจะชื่อ Victoria Station แต่ปี ค.ศ. 1996 ได้เปลี่ยนไปตามชื่อข้างต้นแล้วครับ
ปัจจุบันที่นี่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของ Unesco เรียบร้อยแล้วครับ



ตรงข้ามสถานีรถไฟ โซนนี้จัดไฟกาลงคืนสวยจริงๆครับ
แต่ผมไม่ได้นั่งรถไฟไปนาสิกจากสถานีนี้นะครับ ไปขึ้นอีกสถานีนึง ลืมบอกภายในสถานีรถไฟ และสถานที่ราชการ ห้ามถ่ายภาพนะครับ อาจรู้สึกอึดอัด แต่เห็นใจประเทศเค้านิดนึงนะครับ เพราะเคยมีเหตุการณ์ก่อการร้าย และมีความขัดแย้งระหว่างพื้นที่อยู่เนืองๆครับ
Gate of India

อยู่ริมทะเลทางใต้ของมุมไบ ใกล้โรงแรม Taj ครับ ก่อสร้างเป็นที่ระลึกการเยือนของ King George V และ Queen Mary สมัยเสด็จเยือนอินเดีย (ก็สมัยอังกฤษยึดครองอินเดียแหล่ะครับ) ออกแบบโดยผสมผสานระหว่าง islamic style แบบ คุชราช และ Hindu Style
คนเยอะมากครับ ผมไม่ได้เข้าไป ถ่ายรูปจากข้างนอกแล้วกัน

The Taj Mahal Palace Tower

โรงแรม ทัช โรงแรมสุดหรูในมุมไบ เป็นที่รับรองดาราดัง และนักการเมืองจากหลายประเทศที่มาเยือนมุมไบครับ ที่นี่เคยเกิดโศฏนาฏกรรมครั้งใหญ่ มีการก่อการร้าย มีผู้เสียชีวิต 167 คนในปี 2008 น่าเศร้าจริงๆ ตึกนี้ใครอยากถ่ายภาพ ต้องเดินหามุมหน่อยนะครับ ถนนหน้าอาคารไม่มีมุมเลย ไม่งั้นอาจต้องล่องเรือออกไปถ่าย ถึงจะได้ระยะครับ
Rajabai Clock Tower
ตั้งอยู่ทางมุมไบตอนใต้ ใน zone ใกล้ๆ มหาวิทยาลัยมุมไบ ก่อสร้างโดย Sir Gilbert Scott ตามแบบของ Big Ben ใน London ชื่อ Rajabai มาจากชื่อมารดาของ นาย Premchand Roychand ผู้ก่อตั้ง ตลาดหุ้นมุมไบ

ฟ้าเน่าทำขาวดำเสียเลย
ในโซนนั้น เราสามารถเดินเล่นดูสถาปัตยกรรมสวยๆ ได้หลายตึกเลยครับ (ผมไปวันอาทิตย์เข้าไม่ได้หลายที่) อาคารแถวนั้น บางอาคารเช่นศาล มีเจ้าหน้าที่ทหารเฝ้า ผมไปชวนเขาคุยก่อน ค่อยขอถ่ายรูป เขาก็ให้นะครับ ยังไง ก่อนถ่ายขอก่อนก็ดีครับ เพราะถ้าไม่ขอ บางทีไม่ให้แล้วด่านะครับ




Chowpatty Beach
ชายหาดสาธารณะที่มีคนเยอะมากในมุมไบ ยิ่งผมไปวันหยุดคนเยอะมากกกกก น้ำถือว่าไม่ได้สะอาดนะครับ แต่ก็คิดว่าพอจะเล่นได้ แต่ไปมุมไบ เราก็คงไม่เล่นน้ำทะเลหรอกเนอะ

ดูคนซะก่อน

ท่ายืนนี่ยอม
เอาพอสังเขป แล้วกันนะครับหมดวันพอดี เที่ยวเล่นๆวันนึงก็จะได้ประมาณเท่านี้ล่ะครับ ยังขาด ดาราวี ที่เป็นชุดชนแออัดที่ใหญ่ที่สุดในโลก (ในเรื่อง Slumdog Millionaires ) ไปที่นึง แต่ไว้โอกาสหน้าก็ได้ครับ
วันรุ่งขึ้นพวกผมก็เตรียมตัวเดินทางไป นาสิกกันแล้วครับ ใช้รถไฟตู้นอนไป แต่ก็แค่ 4 ชั่วโมงเท่านั้นเอง หลายๆคน อาจจะเคยได้ยินข่าว อุบัติเหตุจากรถไฟของอินเดียบ่อยๆ แต่ไม่ต้องตกใจครับ รถไฟเขาวิ่งเยอะกว่าเรามากครับ (วิ่งเยอะ อุบัติเหตุก็เยอะ อ้าว ยังไง...) ที่จะบอกคือ อัตราการเกิดอุบัติเหตุก็พอๆกับเราล่ะครับ อย่าไปซีเรียส....


รถไฟตู้นอนที่ผมจอง ผ่านจาก web เลยครับ โดยน้าไก่ papercut เป็นคนดำเนินการ สะดวกมากๆครับ fix ที่นั่งด้วยครับ แต่เราจะเจอ เพื่อนร่วมทางชาวอินเดีย มาเนียนนั่งที่เราบ่อยๆครับ แต่เขาค่อนข้างจะโอเคนะครับ ถ้าเราบอกว่าที่เรา เขาจะลุกเองครับ...
ที่นอนจะแบ่งเป็น 2 ข้างครับ ข้างนึงพับแล้วมี 3 ชั้น ส่วนด้านข้าง จะมี 2 ชั้น ถ้าสะดวกจองด้าน side จะดีกว่าครับ สบายกว่า....

น้าหลามหนึ่งในชาวคณะ

แฝงตัวอย่างแนบเนียน
รถไฟตู้นอนมีนายตรวจด้วยนะครับ ภาษาอังกฤษดีเลย..(ดีกว่าผมอีก) เตรียมเอกสารไว้กับตัวด้วยนะครับ มีคนขายของเหมือนเมืองไทยเลยนะครับ ตั้งแต่ ไจ ( Chai Tea) ถั่วตัด ข้าวคั่ว ปรุงรส ป๊อบคอร์น

ระหว่างทางก็ถ่ายรูปเล่นไปครับ เด็กคนนี้ชื่อ เฟเบียน (Fabian) ซนมากๆครับ ปีนขึ้นชั้นโน้นชั้นนี้ ตลอดเวลา อดใจไม่ไหว ต้องถ่ายรูปซักนิดครับ


นั่งซักพัก เขาจะนอนกันครับ ผมเลยต้องระเห็จมาอยู่ในช่องตรงกลาง ลืมบอกที่นอนในรถไฟเขามี 3 ชั้นแหน่ะครับ
นอนเล่นไปเรื่อย ในที่สุดเราก็มาถึง Nashik ครับ ใน Nashik นี่มีที่จัดงานอีกจุดนึงนะครับ ชื่อ Ramkund ซึ่งเราได้กลับมากันในภายหลัง ซึ่งจะกล่าวถึงในตอนต่อไปครับ แต่เราหารถเหมาไปที่ตำบล Trimbakeshwar ซึ่งเป็นที่ตั้ง ของวัด Trimbakeshwar Temple ที่เป็นที่จัดงานหลักของ Kumbhmela ปีนี้ก่อนและเอากระเป๋าเก็บเข้า Camp ของเราก่อนครับ
เรียกว่า Camp นี่ช่างเหมาะสมจริงๆ เหมือน Camp คนงานก่อสร้างเลยทีเดียวครับ ดูรูปเอาเอง....

ขอบคุณรูปจากน้าไก่



พื้นนี่เอายางมะตอยราดนิดนึง แล้วก็เอาพรมอัดปู ฝนตกที พรมก็จะเริ่มแฉะ ผนังเปuยกความชื้นเข้าห้อง.... แต่เอาจริงๆก็สบายพอตัวนะครับ ที่นั่น อากาศเย็น (จบเกือบหนาว) นอนได้สบายๆครับ กลางวันร้อน ฝนตก กลางคืนหนาว ครบรสจริงๆ
กลางวันเดินถ่ายรูปร้อนๆ ก็หนีมานักพักในค่าย เย็นๆออกไปลุยใหม่

บางวันก็มีพนักงานโรงแรมเรียกให้ไปถ่ายงูเห่า มันมุดเข้าแคมป์มา แล้วมุดเข้าห้องข้างๆห้องเพื่อนผม แต่ที่นี่ดีนะครับ เขาไม่ตีตาย แค่ไล่ออกไป คงเพราะในอินเดียก็มีการบูชางูอยู่บ้างมั้ง

เรียกให้เข้าไปใกล้ๆเออ ตอนนั้นใส่ 28mm อยู่ว้อยยย

แต่ภูเขาแถวแคมป์นี่สวยมากนะครับ ภูเขานี้ชื่อว่า พราหมณ์คีรี (Brahamagiri hill)
เก็บของแล้วก็ออกมาเดิน survey เล่นครับ ระยะทางจาก Camp ไปวัด Trimbakeshwar จะราวๆ 2.5 กิโลได้ไปกลับ ก็ 5 กิโล บาบาจะเดินไปอาบน้ำในทุกเช้าและเย็นก็ร่วม 10 กิโลเลยทีเดียว สำหรับกลุ่มที่ตั้ง สาธุกรัม (แปลว่าที่พักของสาธุ) ไว้ไกลๆ ก็จะมากกว่านั้น



อาหารการกินใน Trimbakeshwar

มัน (รึปล่าว ) ดองวางกับพื้น หั่นแว่นบางๆลงไปเรื่อยๆ กินแล้วก็จืดๆ คล้ายๆแห้ว คนขวานั่นน้าไก่ Papercut

บาบาคนแรกที่ได้ถ่ายรูป

ร้านค้าของที่ระลึก
อาหารการกินที่นั่น มีร้านอาหารเพียบครับ แต่เป็นมังสวิรัติทั้งหมด มีร้านนึงเจอมาม่าผัดแบบจีนครับ อร่อยมาก มาเจอเอาวันหลังๆ เลยใช้ฝากท้องแทบจะทุกวันไปเลยครับ
กินมังสวิรัติ 6-7 วันนี่ ชาวคณะถึงกับเกิดอาการกระหายเนื้อวันที่กลับถึงสนามบินนี่นั่งกิน KFC กันปานจะกลืนกระดูกลงไป....
ในทุกๆเย็น ที่บ่อน้ำ Kusavarta จะมีพิธีอารตี (คนที่นี่เรียกอาตีเลย) คือพิธีบูชาไฟ บางวันจัดโดยพราหมณ์ บางวันจัดโดยฆราวาส (แต่มีพราหมณ์ช่วยครับ) ผมได้เข้าร่วมในวันที่ 3 ที่มาที่นี่ครับ ประทับใจมากครับ


หลังจากพิธีทุกคนก็จะมาแตะไฟที่ผ่านการทำพิธีแล้วมาแตะหน้าผากครับ

แล้วก็รับพร ทำบุญตามระเบียบครับ
จบสำหรับการเตรียมตัวเข้าแคมป์นะครับ ตอนหน้าจะมาเล่าประสบการณ์ในงานกุมภเมลาอย่างละเอียดอีกทีครับ
Comments